หลักและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับสื่อการสอน
สื่อแบ่งตามประสบการณ์การเรียนรู้
การแบ่งประเภทของสื่อการสอน
ถ้าแบ่งตามระดับประสบการณ์ของผู้เรียน ซึ่ง เดล (Dale 1969:107) ได้แบ่งสื่อการสอนออกเป็น 10 ประเภท โดยพิจารณาจากลักษณะของประสบการณ์ที่ได้รับจากสื่อการสอนประเภทนั้น
โดยยึดเอาความเป็นรูปธรรมและนามธรรมเป็นหลักในการแบ่งประเภท
และได้เรียงลำดับจากประสบการณ์ที่เป็นรูปธรรมที่สุดประสบการณ์
ที่เป็นนามธรรมที่สุด (Abstract Concrete Continuum) เรียกว่า
"กรวยประสบการณ์" (Cone of Experience) ดังแผนภูมิ
ขั้นที่
1 ประสบการณ์ตรงและมีความมมุ่งหมาย (Direct Purposeful Experience) เป็นประสบการณ์ที่เป็นรากฐานของประสบการณ์ทั้งปวง
เพราะได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ได้เห็น ได้ยินเสียง ได้สัมผัสด้วยตนเอง เช่น
การเรียนจากของจริง (Real object) ได้ร่วม
กิจกรรมการเรียนด้วยการลงมือกระทำ เป็นต้น
ขั้นที่
2 ประสบการณ์จำลอง (Contrived
Simulation Experience) จากข้อจำกัดที่ไม่สามารถจัดการเรียนการสอนจากประสบการณ์จริงให้แก่ผู้เรียนได้
เช่น ของจริงมีขนาดใหญ่หรือเล็กเกินไป มีความซับซ้อน
มีอันตรายจึงใช้ประสบกาณ์จำลองแทน เช่น การใช้หุ่นจำลองแทน เช่น การใช้หุ่นจำลอง
(Model) ของตัวอย่าง (Specimen) เป็นต้น
ขั้นที่ 3 ประสบการณ์นาฏการ (Dramatized Experience) เป็นประสบการณ์ที่จัดขึ้นแทนประสบการณ์จริงที่เป็นอดีตไปแล้ว
หรือเป็นนามธรรมที่ยากเกินกว่าจะเข้าใจและไม่สามารถ ใช้ประสบการณ์จำลองได้ เช่น
การละเล่นพื้นเมือง ประเพณีต่างๆ เป็นต้น
ขั้นที่ 4 การสาธิต (Demonstration) คือการอธิบายข้อเท็จจริง ความจริง
และกระบวนการที่สำคัญด้วย การแสดงให้เห็นเป็นลำดับขั้น การสาธิตอาจทำได้โดยครูเป็นผู้สาธิต
นอกจากนี้อาจใช้ภาพยนต์ สไลด์และฟิล์ม สตริป
แสดงการสาธิตในเนื้อหาที่ต้องการสาธิตได้
ขั้นที่ 5 การศึกษานอกสถานที่ (Field Trip) การพานักเรียนไปศึกษายังแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียน
เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนเรียนรู้หลายๆด้าน ได้แก่ การศึกษาความรู้จากสถานที่สำคัญ
เช่น โบราณสถาน โรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น
ขั้นที่ 6 นิทรรศการ (Exhibition) การจัดแสดงสิ่งต่างๆ
รวมทั้งมีการสาธิตและการฉายภาพยนต์ประกอบเพื่อให้ประสบการณ์ในการเรียนรู้แก่ผู้เรียนหลายด้าน
ได้แก่ การจัดป้ายนิทรรศการ การจัดแสดงผลงานนักเรียน
ขั้นที่ 7 ภาพยนต์และโทรทัศน์ (Motion Picture and Television) ผู้เรียนได้เรียนด้วยการเห็นและได้ยินเสียงเหตุกาณ์
และเรื่องราวต่างๆ ได้มองเห็นภาพในลักษณะการเคลื่อนไหวเหมือนจริง ไปพร้อมๆกัน
ขั้นที่ 8 การบันทึกเสียง วิทยุ และภาพนิ่ง (Recording,
Radio and Television) ได้แก่ เทปบันทึกเสียง แผ่นเสียง
วิทยุ ซึ่งต้องอาศัยเรื่องการขยายเสียง ส่วนภาพนิ่ง ได้แก่
รูปภาพทั้งชนิดโปร่งแสงที่ใช้กับเครื่องฉายภาพข้ามศีรษะ (Overhead
Projector) สไลด์ (Slide) ภาพนิ่งจากคอมพิวเตอร์ และ ภาพบันทึกเสียงที่ใช้กับเครื่องฉายภาพทึบแสง (Overhead
Projector)
ขั้นที่ 9 ทัศนสัญลักษณ์ (Visual
Symbol) มีความเป็นนามธรรมมากขึ้น
มีความจำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงประสบการณ์ของผู้เรียนเป็นพื้นฐาน
ขั้นที่ 10 วจนสัญลักษณ์ (Verbal
Symbol) เป็นประสบการณ์ขั้นสุดท้าย ซึ่งเป็นนามธรรมที่สุด
ไม่มีความคล้ายคลึงกันระหว่างวจนสัญลักษณ์กับความจริง ได้แก่
การใช้ตัวหนังสือแทนคำพูด
วัสดุกราฟิก
วัสดุกราฟิก หมายถึง ทัศนวัสดุอย่างหนึ่งที่นำมาใช้ในการสื่อความหมายเพื่อแสดงสัญลักษณ์หรือความหมายของสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริง
แนวคิด และเสริมความเข้าใจโดยอาศัยส่วนประกอบที่เป็นรูปภาพ สัญลักษณ์ แผนภาพ ฯลฯ
ซึ่งวัสดุกราฟิกมี 3 ประเภท ได้แก่ วัสดุกราฟิก 2 มิติ และวัสดุกราฟิก 3 มิติ
และวัสดุอิเล็กทรอนิกส์ ดังรายละเอียดดังต่อไปนี้
ประเภทของสื่อวัสดุ
1. สื่อวัสดุกราฟิก เป็นวัสดุ 2 มิติ รูปร่างบางแบน เช่น
รูปภาพ ตัวหนังสือ และสัญลักษณ์
2. วัสดุ 3 มิติ เป็นสื่อที่สร้างมาจากวัสดุต่างๆ
สามารถตั้งแสดงด้วยตนเอง เช่น หุ่นจำลอง
ของจริง ของตัวอย่าง ป้ายนิทศ
กระดานแม่เหล็ก ตู้อันตรทัศน์สรุปสาระสำคัญ
3. สื่อวัสดุอิเล็กทรอนิกส์
เป็นสื่อที่ใช้กับเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เทป เทปวีดีทัศน์ แผ่นซีดี วีซีดี
ดีวีดี
สื่อวัสดุกราฟิก
1. วัสดุกราฟิก ได้แก่ ภาพเขียน ภาพสี และภาพขาวดำ ตัวหนังสือ
เส้น สัญลักษณ์ งานกราฟิก ในสื่อการเรียนการสอนมีวัตถุประสงค์เพื่อการสื่อความหมาย
และถ่ายทอดความรู้ไปสู่ผู้เรียน
2. คุณค่าของวัสดุกราฟิก
วัสดุกราฟิกเป็นสื่อพื้นฐานที่ใช้ประกอบการเรียนการสอน
เผยแพร่ความรู้ทั่วไปจึงมีคุณค่าหลายประการคือ ราคาถูก ครูสามารถผลิตได้เอง
3. ประโยชน์ของวัสดุกราฟิก
ช่วยให้ผู้เรียนและผู้สอนเข้าใจเนื้อหาบทเรียนได้ตรงกัน
กระตุ้นความสนใจของผู้เรียนได้ดีกว่าตัวหนังสือ
4. ลักษณะของวัสดุกราฟิกที่ดี คือ
ตรงกับเนื้อหาและวัตถุประสงค์ของบทเรียน มีรูปแบบง่าย ต่อการรับรู้ ไม่ยุ่งยาก
สื่อความหมายได้ชัดเจนรวดเร็ว
5. การออกแบบวัสดุกราฟิก เหมาะสมกับลักษณะของผู้เรียน
ตรงตามเนื้อหาและวัตถุประสงค์ของบทเรียน
การออกแบบต้องคำนึงถึงการสื่อความหมายเป็นสำคัญ
6. ข้อดีและข้อจำกัดของวัสดุกราฟิก แสดงเนื้อหาให้เข้าใจง่ายขึ้น ผลิตง่ายต้นทุนการผลิตต่ำ
ใช้งานสะดวกรวดเร็ว เก็บรักษาง่าย
ผู้เรียนมีโอกาสร่วมกิจกรรมการเรียนการสอนได้ง่าย
ข้อจำกัดใช้ได้กับกลุ่มเป้าหมายขนาดเล็กเท่านั้น
วัสดุกราฟิกที่มีคุณภาพต้องอาศัยความชำนาญ ในการออกแบบและผลิต
7. ประเภทของวัสดุกราฟิก
- แผนภูมิ เป็นวัสดุกราฟิกที่มีองค์ประกอบเป็นสัญลักษณ์
รูปแบบและตัวอักษร ใช้ประกอบการบรรยาย ชี้แจง สรุปสาระสำคัญ
เนื้อหาที่เหมาะกับสื่อแผนภูมิ ได้แก่ ขั้นตอน การเปรียบเทียบ กระบวนการ
การแสดงความสัมพันธ์ของข้อมูลข่าวสาร
สื่อวัสดุ
3 มิติ
1. วัสดุ 3 มิติ หมายถึง รูปทรงประกอบด้วยขนาดทั้ง 3 ทิศทางคือ ส่วนกว้าง ส่วนยาว ส่วนหนา ส่วนนูน ส่วนเว้า
บางอย่างเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น บางอย่างที่อยู่โดยธรรมชาติ
2. ประเภทของวัสดุ 3 มิติ
- หุ่นจำลอง ใช้ในการถ่ายทอดความรู้แทนความจริงในกรณีที่ของจริงไม่สามารถนำมาแสดงได้
- ของจริง สิ่งเร้าต่างๆ ที่อยู่ตามธรรมชาติและมนุษย์สร้างขึ้น
มีประโยชน์ ต่อการเรียนรู้ด้วยการแสดงสาระที่เป็นจริงได้ดีกว่าหุ่นจำลอง
- ป้ายนิเทศ ใช้แสดงเรื่องราวต่างๆ เช่น รูปภาพ แผนภูมิ ข้อความอธิบายภาพ
เพื่อถ่ายทอดเนื้อหาความรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่ง ป้ายนิเทศเป็นสื่อที่มีคุณค่าต่อการเรียนการสอน
สามารถใช้ได้ทุกขั้นตอนในกระบวนการเรียนการสอน
- ตู้อันตรทัศน์ เป็นทัศนวัสดุที่ออกแบบเป็นสื่อ
3 มิติ
เรียนแบบธรรมชาติกระตุ้นความสนใจมีลักษณะเป็นฉาก มีความคล้ายคลึงกับความจริง
เช่นฉากใต้ทะเล ฉากเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้า โดยมีกล่องพลาสติก หรือกระจก
หรือแผ่นอคิริกใส ครอบอยู่
- กระบะทราย เป็นทัศนวัสดุ 3 มิติที่นำเสนอเรื่องราวจำลองคล้ายของจริงบนพื้นทรายและมีวัสดุต่างๆสามารถสัมผัสได้โดยไม่มีวัสดุใดครอบอยู่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น